การปฺฏิบัติงาน(Implementation) ของ Project Management

ในขั้นการนำ แผนไปสู่ การปฏิบัติ

การติดตาม ควบคุมขั้นตอนและต้นทุน (Monitor & Process Control and Budget)

• ให้ ดูแลคงสภาพในมุมมองที่เป็นภาพใหญ่
• ตอบสนองอย่างรวดเร็ว ในการเปลี่ยนแปลงของข้อมูล และราย่ละเอียด เพื่อจับสัญญาณที่จะเริ่มจะก่อปัญหา จะช่วยให้สามารถ กำหนดแนวทางแก้ไขได้อย่างถูกต้อง
• สร้างความชัดเจนกับทีมสมาชิก ว่าเราพร้อมตอบสนองต่อปัญหาที่เกิดขึ้น
• อย่ารีบร้อนในการ เข้าไปจัดการกับปัญหา ให้สมาชิก ดูแลงานในส่วนที่เป็นปัญหาเล็กๆ ซึ่งพวกเขามีความถนัด และอยู่ในส่วนงานที่เขารับผิดชอบ

รายงาน ความคือหน้าและสถานะโครงการ (Report Progress)

• สอบถาม และทำความเข้าใจให้ตรงกัน กับ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง (Stake Holder)
  ว่า "ต้องการให้แสดงข้อมูลอย่างไร" ? และ "ต้องการให้อยู่รูปแบบไหน" ?

ดำเนินการประชุม "รายสัปดาห์" (Weekly Meeting)

• กำหนด วาระ/หัวข้อที่ชัดเจน สำหรับการประชุม
• บางขณะ อาจจะต้องสับเปลี่ยน การทำงานที่จำเป็น ไปยังส่วนงานที่สูญเสียเวลาไปมาก
• มุ่งแก้ปัญหา เพ่งความสนใจ ในประเด็นที่ยังไม่ได้ข้อสรุป ผ่านการประชุม
  ตั้งคำถาม กับ ตัวเองว่า อะไรปัจจัยสำคัญ ทีจะทำให้โครงการสำเร็จ

จัดการ กับปัญหาอย่างถูกวิธี (Manage Problem)

• Time Slippage ปัญหา ขอบเขตเวลา อาจจะไหลเกินกว่าที่ ประเมินไว้ การเผื่อเวลา และอาศัย Time Boxing เป็นตัวช่วย  
• Scope Creep ปัญหา ขอบเขตของงาน อาจจะ เกินเลยไปกว่าที่ ได้ทำความ เข้าใจกันไว้แต่แรก ในส่วนนี้ ต้องอาศัย วิธีการต่อรอง
• Quality Issue ปัญหา ด้านคุณภาพของงาน การได้ รีซอร์สที่เป็น ส่วนนำเข้า ไม่ตรงตามข้อกำหนด หรือทักษะของ ทีมสมาชิก ไม่เหมาะกับงาน(Under Qualified) หรือ Missed Match ก็อาจเป็นให้ได้ เนื้องานไม่ ครบถ้วนสมบูรณ์
• People Problem ปัญหา เรื่องคน การทำงานร่วมกัน การประสานงาน การใช้วันหยุด อาจมาจากการ ป่วย ลาพักร้อน
  ผู้จัดการโครงการ ต้องคิดเผื่อ ทั้งเวลา และกำลังคนที่จะมา ทดแทนในส่วนนี้ด้วย   

      

         
      

NFC ContactLess เทคโนโลยีสื่อสารแบบไร้สัมผัส

เทคโนโลยี NFC ทำให้เรา สามารถใช้ การสื่อสารระหว่างอุปกรณ์อิเล็กทรอนิคได้โดยง่ายและปลอดภัย 

โดย ยินยอมให้ผู้ใช้ ทำรายการต่างๆ แบ ไร้การสัมผัสกันของอุปกรณ์​ การเข้าถึงเนื้อหา 

ในรูปแบบ ดิจิตอล และการเชื่อมต่อไปยังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิคได้ง่ายเพียงสัมผัสเดียว 

NFC ประกอบด้วยส่วนเติมเต็มจากเทคโนโลยีไร้สายชั้นนำ ในหลายระดับผู้ใช้งาน โดยใช้ประโยชน์ในปัจจัยหลักๆ เดิมที่มีอยู่ ให้สามารภถรองรับเทคโนโลยีการ์ดไร้สัมผัสตามมาตรฐาน (ISO/IEC 14443 A & B และ JIS-X 6319-4) 

 

ทั้งนี้ NFC ยังสามารถทำงานร่วมกับโครงสร้างของการ์ดไร้สัมผัสที่มีอยู่เดิม และช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถนำไปใช้ประโยชน์ จากอุปกรณ์ใดๆ แม้เพียงหนึ่งเดียว ทำงานข้ามไปยังระบบงานที่ต่างกันได้ 

นอกจากนั้น ยังมีการขยายขีดความสามารถของเทคโนโลยีการ์ดไร้สัมผัส ของ NFC ที่สามารถช่วยให้อุปกรณ์
แบ่งปันข้อมูลในระยะห่างที่ 4 cm. ด้วยอัตราความเร็วในการรับส่งข้อมูลที่ 424 kbyte ต่อวินาที

ผู้ใช้สามารถแบ่งปันข้อมูล นามบัตร ทำธุรกรรมต่างๆ การเข้าถึงข้อมูลผ่าน สมาร์ทโฟน หรือระบุข้อมูลเครดิตเพื่อเข้าถึงระบบควบคุมด้วยการแตะสัมผัสง่ายๆ 

การสื่อสาร 2 ทิศทางใน NFC สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับ การกำหนดการเชื่อมโยงไปยังเทคโนโลยีอื่นๆ ด้วยวิธีการแตะสัมผัสอย่างง่ายๆ อาทิ เช่น กรณี ที่ผู้ใช้ ต้องการเชื่อมต่อ สมาร์ทโฟนไปยังระบบเสียงสเตอริโอ เพื่อจะเล่นเพลง เพียงแค่แตะสัมผัสอุปกรณ์ ไปยังเครื่องสเตอริโอ ตรงจุด สัมผัสที่มี โลโก้ (N Marks) หรือเครื่องหมายสัญลักษณ์ NFC อยู่ จากนั้น ตัวอุปกรณ์ จะทำการจับคู่สัญญาณเพื่อสั่งงาน ให้เครื่องเสียงทำงาน

แนวโน้ม NFC กำลังได้รับการพิจารณาและสนับสนุนให้เป็นเทคโนโยลีไร้สายที่ดีที่สุด ในด้านการใช้งานและต้นทุนราคาอุปกรณ์ที่มีราคาถูก ในส่วนการใช้งานนั้น ก็มีความง่ายในการเชื่อมต่อ การทำธุรกรรมที่รวดเร็ว การแบ่งปันข้อมูลได้อย่างรวดเร็วง่ายดาย 

5 หัวข้อ การวางแผน Planning ที่ไม่ควรมองข้าม ของ Project Management

1. ตีความให้แตกว่า อะไรคือปัญญาที่จะต้องแก้ไข
   ก่อนลงมือปฏิบัติ ใช้เวลาเพื่อจำแนกว่า หัวข้ออะไร ในโครงการที่จะต้องได้รับการปรับปรุงแก้ไข
2. พิจารณา ศึกษาดูว่า ผู้มีส่วนได้เสียเป็นใครบ้าง
   ฟังก์ชั่นงานใด หรือใครอาจได้รับผลกระทบ จากกิจกรรม หรือผลลัพธ์ของโครงการ
3. กำหนดวัตถุประสงค์/จุดประสงค์ของโครงการ
   เมื่อจะกำหนดวัตถุประสงค์ ให้คิดถึงแนวคิด SMART ซึ่งประกอบด้วย
   Specific = จำเพาะเจาะจง
   Measurable = ประเมินวัดผลได้
   
   Action-Oriented = เป็นแนวทางนำไปปฏิบัติได้
   Realistic = ใช้งานได้จริง
   Time-limited = มีขอบเขตเวลาจำกัด    
4. กำหนด ขอบเขตงาน, ทรัพยากรที่ใช้ และ ภาระกิจหลัก
   โดยสามารถ อาศัยเครื่องมือช่วย  โครงสร้างการกระจายงาน (Work Breakdown Structure : WBS)
   เมื่อจะจัดทำ WBS
   a  ให้ตั้งคำถามว่า อะไรคือสิ่งที่จะต้องทำ เพื่อให้งาน A สมบูรณ์แล้วเสร็จ
   b ทำซ้ำในขั้นตอน a  จนได้คำตอบ กับงานที่ไม่สามารถ กระจายย่อยได้อีกแล้ว
   c  ประมาณการว่าจะใช้เวลาทั้งหมดเท่าไหร่กับ งานเหล่านี้ และคำนวณในส่วนของ ต้นทุนงาน และชั่วโมงงานที่ใช้
5. เตรียมตัว เพื่อการ สลับสับเปลี่ยน
   เพราะ เวลา ต้นทุน และคุณภาพงาน เป็น 3 ปัจจัยที่แปรผันสัมพันธ์กัน  

  

ทิป iPhone/iPad การตั้งค่าทั่วไปใน Safari

ตัวเลือก(Option) การตั้งค่าทั่วไป (General) ใน Safari มีด้วยกัน 5 ตัวเลือก
วิธีการ แตะ Settings->Safari
- ตัวเลือก Search Engine แตะลูกศร แล้วเข้าไปเปลี่ยนเป็น เครื่องมือค้นหาที่ต้องการ เช่นเลือกเป็น Bing หรือ Google
- ตัวเลือก Password & Autofill แตะเข้าไปเพื่อ กำหนดว่าจะให้ใช้ Names และ Passwords (แตะเลื่อน เป็น On)
  แล้วแตะเลือกลูกศรตัวเลือกย่อย Saved Password แล้วจะเข้าสู่ ลิสต์รายการที่อยู่เว็บ(URL) ถ้าต้องการแก้ไข ก็ให้แตะที่ Edit มุมบนขวา จะมีช่องวงกลมหน้าแต่ละ รายการเว็บให้เลือกว่า ต้องการลบรายการดังกล่าวหรือไม่
ในตัวเลือก ยังมีการกำหนด ข้อมูลในส่วน Credit Card ถ้าต้องการใช้งานในส่วนนี้ ให้แตะเป็น On แล้วเลือกตตัวเลือกย่อย Saved Credit Cards แล้วตามด้วย เข้าไป Add Credit Card ใส่ข้อมูลของ Credit Card ให้ครบ
- ตัวเลือก Favorites ในส่วนนี้ มาจากการกำหนดผ่าน Bookmarks->Favorites จาก Browser
- ตัวเลือก Open Links แตะลูกศรเพื่อกำหนดว่า จะให้ขึ้น Pageใหม่ (In New Page) หรือฉากหลัง (In Background)
- ตัวเลือก Block Pop-Ups แตะเป็น On เพื่อป้องกัน การส่ง  Popup ต่างๆ จากเว็บที่เรียกเข้าไป

Time Boxing ตัวช่วย Project Management

ตัวช่วยที่ ทำให้โครงการบรรลุเป้าหมาย ช่วยกำหนดกรอบเวลาและขอบเขตงาน ช่วยเพิ่มความสามารถประเมินเวลาที่ต้องการ และช่วยเรามอบหมายอย่างมีปีะสิทธิภาพ

1. แจกแจง ทุกรายการ รวมถึง เป้าหมายและภาระ 

    กิจสำคัญ ที่ทีมสมาชิกต้องทำให้แล้วเสร็จออก

    เป็น รายสัปดาห์ รายเดือน รายไตรมาส

2. ประมาณการณ์ เวลาที่ใช้ ในแต่ละกิจกรรม/ส่วน

    พิจารณาอย่างรอบครอบว่า งานแต่ละขั้นตอน 

    ว่าทำให้สำเร็จได้อย่างไร

3. จัดสรรเวลาที่เหมาะสมให้กับงานแต่ละส่วน 

    จัดลำดับความสำคัญ และกำหนดเวลาให้

    ลงตัวพอดี โดยทบทวน สอบทานกับสมาชิก

    ที่ได้รับมอบหมายในงานนั้นๆ 

Cloud ไม่เหมาะนำมาใช้เมื่อใด

1. เมื่อ โพรเซส แอพพลิเคชั่น และข้อมูล เชื่อมโยงเกี่ยวข้องกันมาก(Largely Coupled)
    การแยกส่วนใดออก จะกระทบ กับการทำงานทั้งหมด

2. เมื่อการ เชื่อมโยงกัน(Integration) ไม่ได้ จำแนกแจกแจงอย่างชัดเจน

3. เมื่อต้องคำนึง ถึงความปลอดภัยขั้นสูง(High Level) การปกป้องข้อมูลที่เป็นความลับทางธุรกิจ
    ไม่ให้ไปอยู่ภายใต้การควบคุมของ หน่วยงานนอก 

4. เมื่อการควบคุม เป็นเรื่องวิกฤต(Critical) จำเป็นต่อกระบวนการทางธุริกจ

5. เมื่อโครงสร้างภายในหลักขององค์กร (Core Internal enterprise) จำเป็นต้องอาศัย
    การทำงานเป็นการเฉพาะ 
ุ6. เมื่อแอพพลิเคชั่น อิงกับอินเตอร์เฟสเฉพาะ(Native)

ึ7. เมื่อพิจารณา ต้นทุนรวม(Holistically)  ของการปรับเปลี่ยนทั้งระบบ 
    บางกรณี โมเดล Cloud Computing มีความเหมาะสม บางกรณีก็อาจไม่เหมาะสม 
8. เมื่อแอพพลิเคชั่นถูกใช้มาเป็นระยะเวลา(Legacy) เมื่อจะปรับปรุงให้รองรับ โมเดลแบบ
    Cloud แล้ว ทางเลือกในการ พัฒนาใหม่ อาจใช้ ระยะเวลา ทรัพยากร และต้นทุนจัดหาน้อยกว่า

Cloud เหมาะนำมาใช้เมื่อใด

1. เมื่อโพรเซส แอพพลิเคชั่น และข้อมูล มีความเป็นอิสระ แยกส่วนกันอย่างชัดเจน แอพพลิเคชั่นที่พัฒนาจากรากฐานแนวคิด Loosely Coupled จะสอดคล้องและประยุกต์ใช้กับหลักการ Cloud Computing ได้มากกว่า แอพพลิเคชั่น ตามแนวคิด Tightly Coupled    
2. เมื่อการ "เชื่อมโยงรวมกัน" (Integration) ระหว่างแอพพลิเคชั่น ในส่วนของการแบ่งปันข้อมูล    พฤติกรรม และโพรเซส ได้จำแนกไว้อย่างชัดเจน
3. เมื่อ "ยอมรับได้" กับระดับความปลอดภัยขั้นพื้นฐาน(ต่ำ) 
4. เมื่อโครงสร้างภายในหลักของหน่วยงาน/องค์กร มีความสมบูรณ์ (ทำงานได้ราบรื่นตามคาด) 
5. เมื่อองค์กร ให้น้ำหนักและมุ่งความสนใจไปที่แพล็ทฟอร์ม Web/Internet  เพราะแพล็ทฟอร์มนี้  สนับสนุน การทำงาน UI แบบ Browser based Applications
6. เมื่อ "ต้นทุนการดำเนินงาน" เป็นปัจจัยหลักในการพิจารณา เพราะ โมเดลแบบคลาวด์อาศัยหลักการ "จ่ายตามปริมาณการใช้จริง (Pay-On-Demand)"
7. เมื่อ แอพพลิเคชั่นถูกพัฒนาขึ้นมาใหม่ จะมีความง่ายกว่า การปรับปรุงแก้ไขแอพพลิเคชั่นที่มีอยู่เดิม ให้รองรับโมเดลแบบ Cloud Computing         

Safari Privacy (ความเป็นส่วนตัว) & Security (ความปลอดภัย)

เราสามารถปรับแต่ง Safari เพื่อป้องกันขณะทำการท่องเว็บ (Browsing) จากเว็บไซต์ไม่พึงประสงค์ได้ 

ทิปที่ 1 สงวนโปรไหล์ วิธีการคือ > เลือก Settings->Safari->Do Not Track 

Safari จะสอบถามเว็บไซต์ที่เราเข้าเยี่ยม ไม่ให้จัดเก็บการเข้าใช้งาน 

ทิปที่ 2 การควบคุม Cookies (คุ๊กกี้ = ข้อมูลจำเพาะของเบราเซอร์ที่เราใช้เข้าเยี่ยมชม) วิธีการคือ เลือก Settings->Safari->Accept Cookies กรณีต้องการลบ Cookies จาก iPhone/iPad ให้ไปที่ Settings->Safari->Clear Cookies and Data

ทิปที่ 3 ให้ Safari แนะนำ/สร้าง password ที่ปลอดภัย วิธีการคือ แตะที่ ฟิลด์ Password เมื่อจะสร้าง บัญชี(Account) ใหม่ Safari จะนำเสนอ pasword สำหรับการสร้าง Password ให้ 

ทิปที่ 4 ลบข้อมูลประวัติการท่องเว็บจาก iPhone/iPad วิธีการ แตะ Settings->Safari->Clear History และ Settings->Safari->Clear Cookies & Data

ทิปที่ 5 เข้าเว็บไซต์ แบบไม่ทิ้งร่องรอย 

วิธีการ ให้แตะ Private ขณะกำลังเปิดดูหน้า เพจหรือไซต์ที่ได้ bookmarks (คั่นหน้าเว็บพื่อกลับมาใหม่) ผลลัพธ์ คือจะไม่มีการ เพิ่มข้อมูลไว้ในประวัติการเข้าเว็บ บน iPhone/iPad 

ทิปที่ 6 เฝ้าระวังเว็บไซต์ ที่ไม่ระบุจุดประสงค์ชัดเจน

(อาจเป็นเว็บที่ไม่ปลอดภัย) วิธีการ แตะ Settings->Safari->Fraudulent Website Waring